/home/homedecor/domains/www1.homedecorthai.com/public_html/templates/default/ext/ui/article_detail.tpl.php
1. ข้อแนะนำในการใช้พื้นไม้ อย่าคิดว่าพื้นไม้ราคาถูกจะดีเสมอไป ควรพิจารณาในรายละเอียดในเรื่องคุณภาพของตัวไม้ และคุณภาพของงานบริการปูและติดตั้งการที่ประหยัดเงินไป 3-4 พันบาท อาจจะสร้างปัญหาระยะยาวภายหลังตามมาก็ได้
2. การเตรียมพื้นผิวสำหรับปูพื้นไม้ บริเวณที่จะปูพื้นไม้ควรเตรียมพื้นปูนไว้เป็นผิวเรียบขัดมัน และทำให้พื้นเรียบเสมอมากที่สุด ระดับพื้นที่ราบเรียบนั้นจะส่งผลต่องานที่ออกมาว่าเรียบร้อยหรือไม่ ส่วนระยะของการลดระดับจะขึ้นอยู่กับประเภทของพื้นไม้ ความหนา รอยต่อ ควรปรึกษากับผู้ออกแบบหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์
3. พื้นไม้จำพวกไม้โอ๊ค บีช เมเปิล ยางพารา สน และที่มีสีอ่อนๆ ปัญหาที่เกิดจากปลวก พื้นไม้ดังกล่าวหากมีปลวกขึ้นก็แสดงว่าปลวกกินได้ ปลวกนั้นป้องกันและกำจัดได้ โดยใช้บริการจากบริษัทกำจัดปลวก สำหรับพื้นไม้ชนิดที่เป็นไม้สัก จะมีปัญหาเรื่องปลวกน้อยกว่าไม้ชนิดอื่น
4. การจัดลำดับก่อนหลังกัน ระหว่างขั้นตอนของงานปูพื้นไม้ กับงานอื่นๆ เช่น ถ้าเป็นพื้นไม้ประเภทขัด-ทำสี ควรจะปูก่อนที่จะ ทำการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ประเภท Built-in เพราะงานจะดูเรียบร้อยกว่าการปูหลังจากติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แล้ว บริเวณที่จะทำการปูไม้พื้นประเภทขัด-ทำสี ตอนขัดพื้นจะมีฝุ่นซึ่งจะทำให้ผนังเลอะเทอะ ถ้าเป็นพื้นไม้ประเภทสำเร็จรูป ควรจะเข้าปูงานสุดท้ายหรือหากมีพรมและวอลเปเปอร์ให้ปูเป็นรองสุดท้าย หากมีเฟอร์นิเจอร์ประเภทBuilt-in ควรจะทำหลังจากเฟอร์นิเจอร์ เสร็จหรือเกือบเสร็จเรียบร้อย เพื่อที่พื้นจะได้ไม่เสียหาย
5. ปัญหาเรื่องไม้โก่งและระเบิดของไม้เมืองหนาว ปัญหาเรื่องไม้โก่งและระเบิดไม่ใช่ไม่ได้มาจากไม้เขตเมืองหนาว หรือจากเขตร้อนชื้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะไม้พื้นที่นำไปใช้ผลิตมาไม่ได้มาตราฐาน สำหรับไม้จากเขตเมืองหนาวที่นำมาใช้ในเขตร้อนชื้น ถ้าหากเทียบระหว่างไม้จากเขตร้อนชื้น เช่น ไม้สัก แดง มะค่า ประดู่ มักจะพบปัญหาน้อยกว่าไม้จากเขตหนาว เช่น ไม้โอ๊ค แอช บีช เมเปิล หากไม้จากเขตร้อนชื้นไม่ได้รับการอบให้ได้ตามมาตราฐาน อาจจะมีปัญหาเรื่องไม้หดตัวได้ กรณีที่มีความชื้นจากภายนอกที่มากกว่าปกติ เช่น น้ำท่วม น้ำซึม หรือน้ำรั่ว ไม้ที่มาจากเขตเมืองหนาวจะมีโอกาสเกิดการบิดหรือ โก่งตัวได้ง่ายกว่าไม้จากเขตเมืองร้อนชื้น