|
เสาเข็มนั้นจัดเป็นส่วนสำคัญที่เปรียบเสมือนรากฐานของบ้าน ดังนั้นคนรักบ้านจึงควรใส่ใจในรายละเอียดกันให้มากสักหน่อยเพื่อบ้านของแต่ละท่านได้เริ่มต้นบนรากฐานที่ดี ปัญหาต่าง ๆ ก็ไม่ตามมากวนใจกันทีหลังแน่นอน ครั้งนี้ผมจะขอพูดถึงเสาเข็มอีกประเภท ที่เรียกกันว่า เสาเข็มเจาะครับ
เสาเข็มเจาะนั้นใช้งานกันมากในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด เช่น บริเวณที่มีการก่อสร้างอยู่ติดกับอาคารข้างเคียง เพราะข้อดีของเสาเข็มเจาะ คือ สร้างความกระทบกระเทือนต่ออาคารใกล้เคียงน้อย แต่ก็มีราคาแพงกว่าเสาเข็มตอกอยู่พอสมควร หลักการของเสาเข็มเจาะนั้นจะใช้วิธีเจาะเอาดินออกมาจนถึงระดับที่ต้องการ โดยใช้ปลอกเหล็กป้องกันดินพังแล้วจึงใส่เหล็กเสริมลงไปและเทคอนกรีตจนเต็มหลุมเจาะ เสาเข็มเจาะเองก็แบ่งออกได้หลายประเภทตามวิธีการทำงานดังนี้ครับ
1. เสาเข็มเจาะระบบเปียก ระบบนี้จะเหมาะกับงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ใช้เครื่องมือขนาดใหญ่และค่อนข้างซับซ้อน
2. เสาเข็มเจาะระบบแห้ง นิยมใช้กันทั่วไปในงานก่อสร้าง เช่น บ้านพักอาศัยทั่วไปเพราะเป็นระบบที่ง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมือมาก เสาเข็มเจาะประเภทนี้มีหน้าตัดเป็นวงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 60 เซนติเมตร สำหรับอาคารบ้านเรือนโดยทั่วไปนิยมใช้เข็มเจาะเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 เซนติเมตร และ มีความยาว ประมาณ 20 - 30 เมตร
3. เสาเข็มเจาะแบบ ไมโคร ไพล์ (Micro pile) เป็นเสาเข็มเจาะขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 25 เซนติเมตร เสาเข็มขนิดนี้แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็มักจะมีราคาแพง เนื่องจากใช้เทคนิคที่พิเศษกว่าแบบอื่น ๆ ใช้มากในงานซ่อมแซมอาคาร หรือ ต่อเติมบริเวณที่มีพื้นที่ในการทำงานน้อย ๆ
4. เสาเข็มเจาะแบบพิเศษ จะคล้าย ๆ กับเสาเข็มเจาะระบบเปียกแต่จะมีหน้าตัด รูปแบบต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป เช่น หน้าตัดรูปตัว H รูปตัว T หรือเป็นรูปเครื่องหมายบวกทำให้เสาเข็มชนิดนี้สามารถรับน้ำหนักได้มากและมีความคงทนด้วยครับ
จะเห็นว่าเสาเข็มที่เหมาะในการก่อสร้างบ้านพักอาศัยทั่วไป คือ เสาเข็มเจาะระบบแห้งแต่หากบ้านที่ก่อสร้างนั้นไม่มีอาคารใดอยู่ข้างเคียงเลย ก็ให้แฟน ๆ คนรักบ้านพิจารณาเลือกใช้เสาเข็มตอก จะเป็นการประหยัดกว่า ส่วนบริเวณที่มีชั้นดินแข็งอยู่แล้วในทางภูมิภาคของประเทศก็ไม่จำเป็นต้องใช้เสาเข็มนะครับ เปลี่ยนมาใช้ฐานรากแผ่จะเหมาะสมกว่าครับ
|