1. ตำแหน่งของห้องครัว
      โดยภาพรวมแล้วการที่ช่องเปิดที่ใหญ่ที่สุดอยู่ด้านหน้าบ้าน จะทำให้ลมพัดผ่านเข้ามาจากทางหน้าบ้านไปยังหลังบ้าน ดังนั้น การที่ห้องครัวได้ถูกวางไว้หลังบ้านจะเป็นการช่วยลดกลิ่นจากควันของ การทำอาหาร ไม่ให้ลอยตามลมที่พัดผ่านเข้ามาจากทางหน้าบ้าน นอกจากนี้ เนื่องจากในภาพรวมเรามักจะทำการกั้นห้องครัวเป็นสัดส่วน หากเรามีการวางห้องครัวไว้ที่ด้านหน้าบ้านแล้ว จะทำให้ด้านหน้าบ้านของเรามีห้องที่จะกั้นการพัดผ่านของลมทางหน้าบ้านได้ ด้วยเหตุผลทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ เราจึงควรจัดวางห้องครัวไว้ที่ด้านหลังของบ้าน ตำแหน่งห้องครัวไม่ควรอยู่ตรงกับตำแหน่งของห้องนอนหรือเตียงนอนในชั้นที่สอง เพราะจะทำให้ผู้ที่อาศัยในห้องนอนนั้นๆ ต้องเจอกับอากาศร้อนจากสภาพเป็นหยางของธาตุไฟมากกว่าปกติ โดยการแก้ไขนั้นสามารถทำได้โดยการใส่ฉนวนกันร้อนเข้าไปในฝ้าเพดานที่อยู่ ระหว่างห้องครัวและห้องนอนในชั้นบน

2. เตาไฟ อ่างล้างจาน และ ตู้เย็น
      หากเราพูดถึงเครื่องมือ เครื่องใช้ที่สำคัญที่สุดในห้องครัวนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะนึกถึง เตาไฟ อ่างน้ำ และ ตู้เย็น เป็นลำดับแรกๆ โดยการที่เตาไฟมีสภาพเป็นธาตุไฟและมีความเป็นหยางค่อนข้างสูง และอ่างล้างจานมีสภาพเป็นธาตุน้ำ จึงทำให้เครื่องมือเครื่องใช้ทั้งสองอย่างนี้ มีสภาพพิฆาตกันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การวางเตาไฟและอ่างน้ำที่ดีนั้น เราจะไม่พยายามวางให้เมื่อมีการใช้งานแล้วตัวคนต้องอยู่ตรงกลาง

      การวางเตาไฟกับอ่างล้างจานตรงข้ามกัน เนื่องจากผู้ใช้งานต้องรับสภาพการพิฆาตกันระหว่างธาตุไฟของเตาไฟ และธาตุน้ำของอ่างล้างจานอยู่ตลอดเวลา หากต้องทำอาหารบ่อยๆ ก็จะทำให้มีอารมณ์ฉุนเฉียว ขี้หงุดหงิดง่าย หรือการวางเตาไฟกับอ่างล้างจานต่อกันพอดี ก็จะถือว่ามีสภาพการพิฆาตกันอยู่เช่นเดียงกัน การแก้ไขคือ ให้เรานำธาตุตัวกลางระหว่างธาตุน้ำและธาตุไฟมาวางไว้ ได้แก่ การนำเอาต้นไม้ชนิดแช่น้ำมาวางไว้ที่ด้านเตาไฟหรืออ่างน้ำ เพื่อลดสภาพการพิฆาตกัน

      การวางเตาไฟและอ่างล้างจานที่ดีคือ หากอยู่ฝั่งตรงข้ามกันให้วางตำแหน่งของเตาไฟและอ่างล้างจาน ให้เยื้องกันหรือให้ตำแหน่งของเตาไฟและอ่างล้างจากห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร หรือ หากเตาไฟและอ่างล้างจานอยู่ฝั่งเดียวกัน ก็ให้วางตำแหน่งเตาไฟและอ่างล้างจานให้ห่างกันอย่างต่ำ 1 เมตร เช่นเดียวกัน ส่วนการวางตำแหน่งตู้เย็นนั้นให้ใช้หลักการทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ช่วยคือให้ วางเสริมให้เป็นตำแหน่งมุมที่เหลือเพื่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อเทียบกับเตาไฟและอ่างล้างจาน เพราะการวางเตาไฟ อ่างล้างจาน และตู้เย็น ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมนั้นจะทำให้การใช้งานห้องครัวนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวก
การวางเตาไฟและอ่างล้างจานที่ดีคือ หากอยู่ฝั่งตรงข้ามกันให้วางตำแหน่งของเตาไฟและอ่างล้างจาน ให้เยื้องกันหรือให้ตำแหน่งของเตาไฟและอ่างล้างจากห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร หรือ หากเตาไฟและอ่างล้างจานอยู่ฝั่งเดียวกัน ก็ให้วางตำแหน่งเตาไฟและอ่างล้างจานให้ห่างกันอย่างต่ำ 1 เมตร เช่นเดียวกัน ส่วนการวางตำแหน่งตู้เย็นนั้นให้ใช้หลักการทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ช่วยคือให้ วางเสริมให้เป็นตำแหน่งมุมที่เหลือเพื่อให้เป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อเทียบกับเตาไฟและอ่างล้างจาน เพราะการวางเตาไฟ อ่างล้างจาน และตู้เย็น ให้เป็นรูปสามเหลี่ยมนั้นจะทำให้การใช้งานห้องครัวนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวก

        1) เฟอร์นิเจอร์ในห้องทานอาหารนั้นควรมีสภาพโปร่ง ไม่ทึบเกินไป เช่น เพื่อทำให้กระแสไหลอากาศไหลผ่านได้ง่าย รวมไปถึงยังสามารถกวาดถูทำความสะอาดใต้โต๊ะได้ง่ายจึงไม่เป็นที่สะสมของสิ่ง สกปรกจากเศษอาหาร

      2) หากโต๊ะอาหารมีมุมเหลี่ยมไม่ควรนั่งให้โดนบริเวณที่เป็นมุมแหลม

        3) ไม่ควรมีคานหรือฝ้าหลุมบริเวณโต๊ะอาหาร ซึ่งหลายๆบ้านมักจะมีฝ้าหลุมเป็นรูปทรงตามโต๊ะอาหาร เช่น ฝ้าหลุมรูปวงกลม ตามโต๊ะอาหารที่เป็นรูปวงกลม โดยสาเหตุที่ไม่ควรมีฝ้าหลุมหรือคานนั้นเมื่อกระแสอากาศไหลเวียนที่ปะทะกับ คานจะโดนคานบังคับให้กระแสกดต่ำลงมาใต้คานทำให้บริเวณใต้คานนั้นมีกระแสกด ต่ำลงมากเป็นพิเศษ เป็นสาเหตุให้คนที่นั่งใต้คานนั้นเจ็บป่วยหรือหงุดหงิดได้ง่าย
        4) ตำแหน่งเครื่องปรับอากาศไม่ควรอยู่เหนือบริเวณที่นั่ง โดยเครื่องปรับอากาศที่ติดผนังนั้นเปรียบเสมือนสภาพคานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน จึงไม่ควรไปนั่งใต้เครื่องปรับอากาศ