การประกันภัยบ้านที่ควรรู้
3 มิ.ย. 2554

ปกติเมื่อเรากู้เงินซื้อบ้าน สิ่งที่ติดมากับสัญญากู้เงิน คือ การทำประกันภัย แต่ที่ผ่านมาเจ้าของบ้านที่กู้ซื้อบ้านมักจะเข้าใจว่าประกันที่ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินบังคับให้ท่านซื้อ จะครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในบ้านท่านได้
แต่ความเป็นจริงแล้วธนาคารหรือผู้ให้กู้ยืมเงินต้องการปกป้องเพียงแต่ตัวอาคารบ้านเรือนเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ คุณต้องดูความต้องการของคุณเป็นหลักว่าอยากจะปกป้องทรัพย์สินประเภทไหนบ้าง ซึ่งการประกันภัยบ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีในการป้องกันทรัพย์สินที่คุณรัก และจะชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านของคุณ และสิ่งที่อยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้สามารถชดใช้ค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นหากเขาเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บจากทรัพย์สินของคุณ บ้านเป็นทรัพย์สินที่ราคาสูงก็จริง แต่ประกันภัยบ้านกลับได้รับความนิยมต่ำเมื่อเทียบกับการาประกันภัยรถ ทั้ง ๆ ที่บ้านคือการลงทุนครั้งสำคัญในชีวิต ฉะนั้น จึงไม่ควรมองข้าม หากเพียงสามารถจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อให้บ้านของเรามีเกราะคุ้มครองที่คุ้มกันภัยทั้งตัวบ้าน ทรัพย์สินภายในบ้าน หรือแม้แต่บุคคลที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนั้น โดยปกติแล้ว การซื้อประกันภัยบ้านควรครอบคลุม 3 สิ่งต่อไปนี้ คือ ตัวบ้านหรืออาคารที่คุณพักอาศัย ทรัพย์สินภายในบ้านของคุณ และบุคคลที่ 3
1. ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านของคุณ : สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ประกันภัยบ้านทุกที่จะต้องมีให้คุณ เช่นในกรณีที่เกิดเหตุวินาศภัยกับ บ้านคุณ หรือภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
2. การสูญเสียทรัพย์สินภายในบ้าน : การประกันภัยบ้านสามารถที่จะช่วยป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินของคุณได้ เช่นเฟอร์นิเจอร์ และเสื้อผ้า อย่างไรก็ตามหลายบริษัทประกันภัยจะมีการจำกัดขอบเขตราคาและประเภทของทรัพย์สินที่จะรับประกัน
3. การประกันภัยบุคคลที่ 3 : เป็นการประกันภัยที่ปกป้องตัวคุณและคนในครอบครัว หรือถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากสิ่งของของคุณ ไปยังบุคคลอื่น ประเด็นสำคัญ สำหรับผู้ที่ทำประกันภัยบ้าน ก็คือ จะต้องรู้ว่าประกันภัยที่ซื้อมาให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง และไม่ได้ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น หลายบริษัท จะไม่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินประเภท เงิน ธนบัตร อัญมณี แบบพิมพ์ เอกสารสำคัญ สมุดบัญชี ภาพเขียน ยานพาหนะ ต้นไม้ และการจัดแต่สวน
ดังนั้น ก่อนจะซื้อประกันคุณต้องประเมินความต้องการของตัวคุณ และอ่านรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ อีกอย่างที่ควรปฏิบัติก็คือ ในกรณีที่มีการต่อเติมบ้าน ควรจะต้องแจ้งบริษัทประกัน โดยเฉพาะถ้าคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งหรือต่อเติมเป็นจำนวนมาก เพราะถ้าหากมีความเสียหายเกิดขึ้น คุณก็สามารถได้รับค่าชดเชยที่ถูกต้องและครอบคลุม
ในกรณีที่มีการสูญเสียทรัพย์สินภายในบ้าน เราอาจไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานยืนยันกับทางบริษัทประกัน เพียงแต่จะต้องให้รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกทำลายหรือได้รับความเสียหายมากที่สุดที่เป็นไปได้ แต่เพื่อเป็นการป้องกันที่ดี เพราะความเป็นจริงแล้ว เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องยากที่จะจำ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เสียหายหรือถูกขโมย เพราะฉะนั้นทางที่ดี สำหรับบ้านที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก ควรบันทึกวิดีโอรายการทรัพย์สินไว้ และควรเก็บบิลของสิ่งที่มีค่าของคุณไว้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
จำนวนคนอ่าน : 11787 คน
บทความที่ใกล้เคียงกัน :