การดูแลรักษาสระว่ายน้ำ

การดูแลรักษาสระว่ายน้ำถือเป็นเรื่องมองข้ามไม่ได้

28 ธ.ค. 2555

การดูแลรักษาสระว่ายน้ำ ถือเป็นเรื่องมองข้าวไม่ได้

การเติมสารเคมี ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิด คือ

น้ำ สระว่ายน้ำ ว่ายน้ำ อาบน้ำ เล่นน้ำ การดูแลรักษาสระว่ายน้ำ ระบบสระน้ำ

1. คลอรีน(TRICHLORO ISOCYANURIC ACID ) จะต้องเติมคลอรีนทุกวัน เนื่องจากฝุ่นละอองอันประกอบด้วยแบคทีเรีย และเชื้อตะไคร่น้ำ คลอรีนจะทำหน้าที่ฟอกจางสีเพื่อให้ได้น้ำที่ใสสะอาด การเติมคลอรีนจะต้องทำในเวลาหัวค่ำ เนื่องจากในเวลากลางวันน้ำมีอุณหภูมิสูง ทำให้คลอรีนระเหยตัวไว ในอัตราส่วน 300 กรัมต่อน้ำ 100 คิว

2. กับกรดเกลือ(HYDROCHOL ACID 35%)หรือโซดาแอช(SODIUMCARBONATE) การเติมน้ำยาควบคุมตะไคร่น้ำจะทำในเวลาเช้าเพราะไม่มีอันตรายใด และสามรถเล่นน้ำได้ทันที การเติมน้ำยาควบคุมตะไคร่น้ำให้ผสมน้ำยา 1 ส่วนต่อน้ำ 9 ส่วนเสมอ โดยปกติให้ใช้ทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละครั้งในอัตราการใช้ 2 หรือ 3 ออนซ์ต่อน้ำในสระ 5,000 แกลลอน

การเติมน้ำยาจับตะกอนใส่น้ำยาจับตะกอนในตอนกลางคืนหลังปิดให้บริการ เพื่อให้น้ำยาจับตะกอนทำปฏิกิริยากับตะกอน ทำให้ตะกอนที่แขวงลอยต่างๆ ในสระน้ำมีน้ำหนักมากขึ้นและตกลงสู่พื้นสระ น้ำยาจับตะกอนนี้ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ อัตราการเติมน้ำยาจับตะกอนโดยปกติประมาณ 1 แกลลอนต่อน้ำในสระ 1,500 ลบ.เมตร

การขัดทำความสะอาดตัวสระว่ายน้ำ และล้างถังกรอง จะต้องทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง วิธีการเหมือนการขัดกระเบื้องห้องน้ำทั่วไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาที , ล้างถังกรองว่าสกปรกหรือยัง ส่วนการล้างถังกรองทำโดยหมุน Valve ในห้องเครื่องแล้วโยกตำแหน่งบน Mutiport Valve ซึ่งการล้างใช้เวลาประมาณ 10 นาที 1 ครั้งต่อครึ่งเดือน ส่วนการเปลี่ยนถ่ายน้ำภายในสระว่ายน้ำนั้นจะเปลี่ยนทุกๆ 2-3 ปี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับดูดตะกอนคือเวลาประมาณ 05.30 น. หรือไม่เกิน 08.00 น.

การทดสอบคุณภาพน้ำ

เราจะใช้น้ำยาทดสอบคุณภาพน้ำ วัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำในสระน้ำ น้ำยาทดสอบคุณภาพน้ำนั้นจะประกอบไปด้วยน้ำยา สำหรับวัดค่าคลอรีน และน้ำยาวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำในสระน้ำ หรือน้ำยาวัดค่า pH นั่นเอง มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพ ของน้ำในสระทุกวัน เพื่อให้น้ำในสระมีคุณภาพตรงตามที่กำหนดไว้ โดยปกติจะมีการทดสอบทุกวันเช้าและเย็น

วิธีการทดสอบ
1. นำหลอดทดสอบสภาพน้ำตักน้ำในสระโดยให้ตักน้ำที่ความลึกประมาณ 30 cm.
2. หยดน้ำยาทดสอบสภาพน้ำอย่างละ 4 หยด โดยน้ำยาสีขาวใช้วัดคาคลอรีน น้ำยาสีแดงใช้วัดค่าความเป็นกรดด่าง (pH)
3. ปิดฝาแล้วเขย่าๆ หลอดทดสอบเพื่อให้น้ำยาทดสอบทำปฏิกิริยาเร็วขึ้น
4. เปรียบเทียบค่าสีที่ข้างหลอดทดสอบเพื่ออ่านค่า

แหล่งที่มา : thaicontractor.com

จำนวนคนอ่าน : 21585 คน